วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

วรรณกรรม

เรื่องย่อ

อีเลียตโฮป มหาเศรษฐีของอเมริกันผู้มีอิทธิพลต่อประธานาธิปดีและนักการเมืองสหรัฐ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนของ ซี ไอ เอ ที่ส่งอาร์เธอร์ แลนซ์ล็อต เบลลิงเจอร์ เข้าไปทำงานใต้ดินจนทำให้มหาอำนาจรัสเซียล่มสลาย ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เคยตกอยู่ในอำนาจรัสเซียต่างประกาศ อิสรภาพ สหรัฐกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ปราศจากคู่แข่ง โฮปได้ผลประโยชน์คือได้สัมปทานผูกขาดธุรกิจของประเทศที่เกิดใหม่ โฮปตั้งมูลนิธิการกุศล โฮป แอนด์ แฮปปิเนส (เอช เอช เอฟ) เพื่อช่วยเหลือคนยากจนในประเทศด้อยพัฒนาเป็นการบังหน้า เบื้องหลังคือการวางแผนทุกอย่างที่จะเอาประโยชน์จากประเทศที่เขาช่วยเหลือ

ที่ประเทศพม่าสล็อกเผด็จการทหารยึดอำนาจ กักบริเวณนางออกซานซูจี นักศึกษาพม่าเดินขบวนแต่ถูกปราบ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันชื่อ คอลลินสัน ถูกพม่าจับในย่างกุ้งและเสียชีวิตภายหลังอเมริกาจึงวางแผนล้มอำนาจเผด็จการทหารพม่าและสนับสนุนให้ชนกลุ่มน้อยตามชายแดนพม่าแข็งข้อแยกเป็นรัฐอิสระเช่นเดียวกับที่ทำกับรัสเซีย โฮปอยู่เบื้องหลังแผนการนี้และเจรจากับประธานาธิปดีขอให้ส่งแลนซ์ เบลลิงเจอร์ ซี ไอ เอ มือเยี่ยมเข้ามาประเทศไทยเพื่อดำเนินตามแผนให้ชนกลุ่มน้อยต่อสู้พม่า พร้อมทั้งให้แมนดี้อ่อง ลูกครึ่งอเมริกัน – พม่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิ เอช เอช เอฟ ที่เข้าใจและรู้จักกับหัวหน้าชนกลุ่มน้อยมาคอยช่วยเหลือ งานครั้งนี้ โฮปมอบเงินไว้ให้แลนซ์ใช้จ่ายถึง 2 ล้านเหรียญ เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศฮาร์ตเลย์ อัลเกตเสนอแผนให้ประธานาธิบดีอนุมัติ แลนซ์ก็เดินทางเข้าประเทศไทยทันที มีแมนดี้อ่องไปรับที่สนามบินและเป็นผู้ช่วยไปตลอด

ขณะที่แลนซ์เข้าประเทศไทย วิคเตอร์ เลสคอฟ อดีต เค จี บี ของรัสเซีย ซึ่งรู้แผนการทำลายรัสเซียของแลนซ์ก็มาเป็นเลขานุการสถานฑูตรัสเซีย และช่วยสาวสวยชาวรัสเซียที่มาเป็นโสเภณีจากแมงดาไทยไว้ เธอชื่อพาตาซา เธอก็ช่วยเลสคอฟเช่นกัน เลสคอฟพบแลนซ์โดยบังเอิญเกิดความสงสัย เพราะรู้ฝีมือและขับเคี่ยวกันมาแล้วในรัสเซียเลยแอบติดตามการทำงานของแลนซ์

ก่อนเริ่มงานแมนดี้ อ่อง ได้เล่าเรื่องราวของพม่า และชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ให้แลนซ์ฟัง ไม่เห็นด้วยที่แลนซ์จะทำให้ผู้คนต้องสู้รบและฆ่าฟันกัน เพราะเธอเชื่อเรื่องของกรรมตามพุทธศาสนาที่เธอนับถือ แต่เธอก็ยินดีช่วยแลนซ์เต็มที่

แลนซ์และอ่องเริ่มงานใต้ดินโดยติดต่อกับขุนส่าหัวหน้าไทยใหญ่แห่งรัฐฉาน เพื่อให้แยกตัวเป็นอิสระจากพม่า รวมทั้งประสานงานกับชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ให้แข็งข้อกับพม่า แผนงานและความเคลื่อนไหวเลสคอฟสะกดรอยตาม รวมทั้งนายตำรวจไทยคือ พงษ์ศักดิ์และวิชัยก็ติดตามด้วย ขณะที่แลนซ์และอ่องเข้ารัฐฉานเพื่อเจรจานั้น เป็นวันชาติของไทยใหญ่ มีการสวนสนามและงานฉลอง มีเหตุการณ์สำคัญคือพวกว้าเข้าโจมตีเพื่อฆ่าขุนส่า แลนซ์วางแผนให้ทหารขุนส่าตีโต้กลับต้องล่าถอย และฆ่าทหารได้จำนวนหนึ่ง เมื่อแลนซ์และอ่องกลับถึงกรุงเทพฯ ก็รู้เรื่องการติดตามของเลสคอฟ ขณะเดียวกันพม่ารู้แผนการของแลนซ์ก็ส่งหม่องทินและถั่นจีติดตามเช่นกัน

แลนซ์และอ่องก็เดินทางเข้าทางท่าสองยาง จังหวัดตาก เข้าไปยังเนอปลอล์ฐานทัพกู้ชาติของกะเหรี่ยงอิสระเจรจากับนายพลโพเมียะ และก็ถูกโจมตีจากทหารพม่าแลนซ์วางแผนให้กะเหรี่ยงตีโต้กลับได้อีก เมื่อกลับกรุงเทพฯ จึงรู้ว่าพม่ารู้ความลับ แลนซ์สงสัยว่าผู้บอกพม่าน่าจะเป็นโฮป แต่ไม่มีหลักฐาน โดยเฉพาะที่สงสัยมากคือ ปืนที่ทหารพม่าและว้าแดงใช้ในการโจมตีเป็นปืนที่มาจากสหรัฐ ส่วนเลสคอฟรู้ว่าพม่าติดตามแลนซ์จึงร่วมมือกับพม่าด้วย

หลังจากเจรจากับกะเหรี่ยง แลนซ์และอ่องก็ไปเจรจากับส่วยเจ้น ประธานมอญใหญ่ที่สังขละบุรี หม่องทิน ถั่นจีและเลสคอฟวางแผนจับ ขณะถั่นจีเข้าจับแลนซ์ก็เห็นเลสคอฟด้วย แลนซ์และอ่องได้รับความช่วยเหลือจากพงษ์ศักดิ์ นายตำรวจไทย เพราะ ซี ไอ เอ ขอร้องให้ คุ้มครองช่วยเหลือ พงษ์ศักดิ์เล่าเรื่องการติดตามของพม่าและเลสคอฟให้แลนซ์ทราบ เมื่อกลับกรุงเทพ แลนซ์เห็นอีโนลา ลินเดอร์ เพื่อนของโฮปคุยกับคาเดล ทหารรับจ้างนักค้าอาวุธให้เขมร ลาวและชนกลุ่มน้อย อีโนล่าได้สัมปทานน้ำมันทั้งหมดจากสล็อก ทำให้แลนซ์ยิ่งสงสัยพฤติกรรมของโฮปว่าจะตีสองหน้าเพื่อจะเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง

เพื่อขจัดความสงสัยการตามของเลสคอฟ แลนซ์ตัดสินใจไปพบเลสคอฟที่สถานฑูต รัสเซียและทำความเข้าใจกันได้ ทำให้เลสคอฟเป็นเพื่อนของแลนซ์ ส่วนถั่นจีทำงานพลาดจากการจับแลนซ์ถูกสั่งให้แก้ตัวคือวางแผนฆ่าอัลเกต รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะมาประชุมรัฐมนตรีชาติเอเซีย ซึ่งจะมีรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและรัสเซียร่วมประชุมด้วย ถั่นจีไปหาแสนศักดิ์ หัวหน้าค่ายมวยให้ช่วย แต่แสนศักดิ์ก็ถูกพงษ์ศักดิ์นำตำรวจเข้าจับตาย และพบภาพถ่ายของ อัลเกตจึงรู้ว่าถั่นจีมาหาและคาดการว่า ถั่นจีกำลังวางแผนสังหารอัลเกต ส่วนโฮปและอีโนลาก็ วางแผนให้คาเดลสังหารอัลเกตเพื่อประโยชน์ทางการค้าของตน เพราะหากสหรัฐขัดแย้งกับจีนก็จะเป็นประโยชน์กับโฮป ส่วนโนลน์หัวหน้าซี ไอ เอ ก็บอกพฤติกรรมของโฮปและอีโนลาให้แลนซ์ รู้รวมทั้งรายงานเรื่องอาวุธปืนของสหรัฐที่อยู่กับทหารพม่าและชนกลุ่มน้อยให้แลนซ์ได้รู้ด้วย

คาเดลวางแผนสังหารอัลเกตด้วยปืนไร้แสงสะท้อนถอยหลัง เอ็ม 20 ขนาด 75 มม. โดยยิงจากอาคารสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารที่ยังกำลังก่อสร้าง และเป็นจุดที่อยู่ตรงข้ามกับหอประชุมโรงแรม แกรนด์ ริเวอร์ พาเลส ที่รัฐมนตรีต่างประเทศใช้ประชุม การสังหารใช้อาวุธทำจากจีน ที่เขานำอาวุธชนิดเดียวกันของสหรัฐไปแลกมาจากเขมรแดง ส่วนถั่นจีก็วางแผนสังหารเช่นกันแต่ใช้ระเบิดที่เขาชำนาญ โดยจะแอบวางในห้องประชุม ถั่นจีไปวางแผนกับอาคมหัวหน้าแมงดาในซ่องซึ่งแอบจับตัวนาตาซามาขังไว้

เลสคอฟรู้ว่านาตาซาถูกจับจึงไปช่วยและขอให้ตำรวจช่วยด้วย ขณะบุกเข้าช่วยก็เห็นแผนผังห้องประชุมและแผนสังหาร อาคมถูกจับถั่นจีสั่งวางยาพิษเพื่อกันความลับแตก แลนซ์ พงษ์ศักดิ์ วิชัยรู้แผนสังหารจากเลสคอฟจึงสั่งให้ระวังและตรวจสอบห้องประชุม แต่ถั่นจีก็ปลอมเป็นพนักงานโรงแรมเข้าไปวางระเบิดใต้แจกัน หลังเก้าอี้ที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะนั่งประชุม ส่วนคาเดลก็วางแผนใช้ปั้นจั่นในที่ก่อสร้างยกปืนไร้แสงสะท้อนถอยหลังและกระสุนขึ้นไปติดตั้งที่จุดยิง มีคำรณเป็นผู้ช่วยและทั้งสองก็นอนเฝ้าทั้งคืนเพื่อปฏิบัติการ 10 นาฬิกาวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ที่สำคัญพวกเขาจับพาลลิสเตอร์ ซี ไอ เอ ประจำไทยไปไว้ด้วยเพราะถ้าทำงานสำเร็จ พาลลิสเตอร์จะถูกฆ่า ศพของเขาและปืนจากจีนจะทำให้สหรัฐและจีนบาดหมางกัน เป็นไปตามแผนที่โฮปวางไว้

เย็นวันเสาร์นั้นเองหลังอาหารเย็น 3 ทุ่ม วิชัย พงษ์ศักดิ์ แลนซ์และอ่องมาตรวจสถานที่ประชุมครั้งสุดท้าย พงษ์ศักดิ์ก็พบถั่นจีปลอมเป็นพนักงานโรงแรม เพื่อมาต่อสายชนวนระเบิดเวลา จึงต่อสู้กัน ถั่นจีจับแมนดี้ อ่องเป็นตัวประกันเอาปืนจ่อคอลากไปที่ลานจอดรถ มีคนทั้งสามตามไป ขณะจะก้าวขึ้นรถเลสคอฟ ซึ่งอยู่ที่นั่นพอดีก็เข้าล็อกจับทำให้พงษ์ศักดิ์จับถั่นจี ไว้ได้

เช้าวันประชุม แลนซ์ตรวจพบจุดตั้งปืนโดยกล้องส่องทางไกลที่เขาส่องจากห้องประชุม จึงไปที่อาคารก่อสร้างพร้อมกับอ่อง วิชัย และพงษ์ศักดิ์ เขาสั่งชะลอการเข้าห้องประชุมของอัลเกตตอน 10 นาฬิกาไว้ เช้าวันนั้นอีโนล่าก็นำเงินค่าจ้างมาให้คาเดลพร้อมขึ้นไปดูการยิงด้วยตัวเอง

การถ่วงเวลา เลยไป 10 นาที อัลเกต รัฐมนตรีต่างประเทศไม่ยอมรอต่อไปจึงเข้าห้องประชุม คนของอีโนล่าก็ส่งวิทยุบอก คาเดลเริ่มบรรจุกระสุนเตรียมลั่นไก วิชัยตัดสินใจยิงถูกคำรณกระเด็นไปถูกท้ายปืนทำให้ปากกระบอกปืนกระดกสูงขึ้น พร้อมกับที่คาเดลลั่นไกยิงพอดี ลูกจรวด ขนาด 75 มม. พุ่งออกไป ปล่อยลำแสงเพลิงอันร้อนแรงพุ่งออกท้ายลำกล้องไปเผาอีโนล่าที่ยืนด้านหลังไหม้ตายทั้งเป็น กระสุนเหินฟ้าพลาดเป้า คาเดลถูกแลนซ์ยิงตายคาที่และช่วยเหลือพาลลิสเตอร์ออกมาได้ด้วย

แลนซ์เลิกเป็น ซี ไอ เอ แต่งงานกับอ่องเดินทางมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เกาะหมายเลข 8 ด้านทะเลอันดามันภาคใต้ของไทย ได้พบกับโฮปซึ่งต้องแอบอยู่ในเรือยอชมีมือปืนคุ้มกันและต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและหลบซ่อนอยู่ในความดูแลของเผด็จการทหารพม่า เพราะกลัว ซี ไอ เอ ตามฆ่า มีเงินมหาศาลก็เหมือนตายทั้งเป็น แม้ไม่มีหลักฐานชัดแต่ซี ไอ เอก็เปิดเผยความลับและความละโมบของโฮปต่อสังคม อ่องกล่าวว่าโฮปใช้กรรมของเขาแล้ว แลนซ์และอ่องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมและร่วมรับประทานอาหารกับพงษ์ศักดิ์ วิชัย พาลลิสเตอร์ เลสคอฟและ นาตาซาซึ่งแต่งงานกันแล้ว หลังจากนั้นแลนซ์จะกลับไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในอเมริกา ขณะที่รับประทานอาหารอ่องก็ตกใจและเศร้าใจที่รู้ว่าพม่าโจมตีกะเหรี่ยงของนายพลโมเมียะแตกพ่าย ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก และพม่าก็จะโจมตีฆ่าฟันคนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นและรบกันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่มีความคิดเห็น: